วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

เทพบุตร มายาเทพธิดาจำแลง

   

ดูละครย้อนหลัง
 เรื่องย่อละคร ละครย้อนหลัง
    เมื่อหนุ่มหล่อเริ่ด…ชักจะ เซ็งสาว ๆ ที่แย่งกันหมายปองในตัวเขา จนต้องคิดหาวิธีกำจัดพวกเธอออกไปให้พ้น ๆ ซึ่งไม่มีวิธีใดดีเท่า หนามยอก เอาหนามบ่ง แต่ไม่ยักกะง่ายอย่างที่คิด เพราะนอกจากหนามอันเก่าจะยังบ่งไม่ออกแล้ว หนามอันใหม่ก็เกิดเป็นพิษขึ้นมาซะอีก เล่นเอา อิเหนายุคไฮเทค อย่างเขาพูดไม่ออกเลยทีเดียว คิดจะให้ใครสักคนช่วยก็ไม่รู้ว่าจะได้รับความเมตตาจากเธอหรือเปล่า แล้ว อิเหนา จะเอาตัวรอดได้ไหมเนี้ย …
เรื่องย่อเทพบุตร มายาเทพธิดาจำแลง

          รามิล หนุ่มหล่อมาก เนื้อหอมมาก ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพราะมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ พ่อแม่ของรามิลเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่ แม่แก้ว หรือ คุณแก้วอังกาบ แม่เลี้ยงสุดแสนดีผู้เป็นน้าแท้ๆ ของเขา รามิลใช้ชีวิตเพลย์บอยเต็มที่กับสาวสวยมีระดับทั้งสิ้น ข้อตกลงของเขากับสาวทุกคนคือ คบกันเท่าที่พอใจไม่ผูกพัน และไม่ล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ขาประจำล่าสุดของเขา คือ อัจฉราวดี นางแบบและดาราสาวสวยเฉี่ยวเปรี้ยว ผู้หมายมาดจะจับเขาให้ได้

          แล้ววันหนึ่งรามิลแทบเป็นบ้าเมื่อแม่แก้วบอกว่า ราเมศวร์ พ่อเขาตกลงหมั้นลูกสาวของภาคินัย เพื่อนรักไว้ให้เขาก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต และคู่หมั้นของเขาคือ ภัครมัย หรือ มัดไหม เด็กหญิงที่รามิลเห็นแค่ตอนเด็ก ๆ และไม่เคยเห็นกันอีกเลย แต่เขาจำความซน เฮี้ยว และแสบสุดขั้นของเธอได้ไม่มีวันลืม เธอเคยแกล้งเขาสารพัดรูปแบบจนเขาขยาดและเกลียดขี้หน้าเธอมาก ตั้งฉายาเธอว่าเด็กนรก และที่เจ็บใจคือ รามิลชอบผู้หญิงสวย แต่ ด็กหญิงมัดไหมหน้าตาไม่เอาไหน แถมยังสวมแว่นสายตาหนาเตอะ รูปร่างผอมเหมือนเสาโทรเลข อีกอย่างที่รามิลจำได้คือบ้านเธอมีไร่ชื่อมนตรา มีคอกม้าที่ไร่ และมัดไหมรักม้ามาก

          รามิลโวยกับแม่แก้วว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหม แต่ถึงกับอึ้งเมื่อแม่แก้วบอกว่าพ่อของเขาและมัดไหมมีเงื่อนไขว่าเมื่อรับ รู้เรื่องหมั้นแล้วรามิลกับมัดไหมต้องแต่งงานกันภายในสามเดือน และถ้ารามิลไม่แต่งงานกับมัดไหมหรือแต่งแล้วอยู่กันไม่ถึงปีเขาต้องยกเงินสด ทั้งหมดที่มีให้มัดไหม ฝ่ายมัดไหมก็เช่นกัน และรามิลอยากตายลงไปเลยเมื่อแม่แก้วบอกว่าทางมัดไหมตอบตกลงจะแต่งงานกับเขา แล้ว รามิลตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหม และก็จะไม่ยอมสูญเสียเงินทั้งหมดให้เธอด้วยเขาจะทำ ให้เธอเป็นฝ่ายปฏิเสธเขา

          รามิลไปหามัดไหม ภาพแรกที่ทำให้เขาถึงตะลึงคือหญิงสาวร่างระหง สวยไม่มีที่ติ อยู่บนหลังม้าที่วิ่งอย่างสง่า งาม เธอคือภัครมัยหรือมัดไหม แต่เธอมีแผนอยู่แล้วที่จะแกล้งปั่นหัวเขา เธอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่มัดไหมคู่หมั้นของเขา แต่บังเอิญชื่อมัดไหมเหมือนกัน เพียงแต่เธอมีฐานะเป็นคนรับใช้ของมัดไหมคู่หมั้นเขา รามิล เห็นหน้าตาผิวพรรณและเสื้อผ้าราคาแพงของต่างประเทศที่เธอสวมอยู่แล้วไม่อยาก เชื่อเลยว่ามาดอย่างเธอจะเป็นคนรับใช้ แต่อะไรดลใจให้เขาเชื่อไปก็ไม่รู้

          และมัดไหมคนนี้ก็ปากจัดใช่ย่อยไม่ยอมลงให้เขาด้วย เพียงแรกเจอกันเธอก็กัดเขาสะตั้งตัวไม่ติด เป็นสาวใช้บรรดาศักดิ์จริง ๆ กล้ากัดกระทั่งคู่หมั้นของเจ้านาย รามิลแปลกใจว่าเธอรู้รายละเอียดของเขาและคู่หมั้นราวกับเธอคือภัครมัยซะเอง แต่มัดไหมก็เอาตัวรอดไปได้อย่างชาญฉลาด รามิลหัวเสียกลับไป มัดไหมขำกลิ้งกับ ติ๋ม สาวใช้ตัวจริง ติ๋มไม่อยากให้มัดไหมแกล้งรามิล แต่มัดไหมบอกว่าผู้ชายเจ้าชู้เสเพลอย่างรามิลต้องให้บทเรียนแสบ ๆ ซะบ้าง ไม่งั้นจะคิดว่าอะไร ๆโดยเฉพาะผู้หญิง ง่ายไปซะหมด

          รามิลไปปรับทุกข์กับ ดนุพันธ์ เพื่อนรักของเขา ดนุพันธ์ขำว่ารามิลถูกพ่อดัดหลัง แต่ดนุพันธ์เองก็ ปวดเศียรกับความรักที่ยังไม่มีท่าจะสมหวังของตัวเอง เขาจีบ นาตาชา น้องสาวของรามิลอยู่ และนาตาชายังไม่ยอมรับรักเขา แถมความรักของเขายังมีมารผจญอีกคือ พิมมาดา ที่ตามตื้อเขาจนนาตาชา ไม่ไว้วางใจเขา ว่าเขาเจ้าชู้เหมือนรามิล ส่วนนาตาชาก็มี อภิชาติ เจ้าของนิตยสารชั้นนำ ที่เธอเป็นตากล้องให้อยู่ตามจีบ และดนุพันธ์หึงแทบหน้ามืดตาลาย นาตาชาเป็นเพื่อนรักของมัดไหม แสบพอ ๆ กับมัดไหม มัดไหมเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนาน และเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของปารีส เคยขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลกมาแล้ว เธอใช้ชื่อว่า แม็ตตี้ นาตาชาขอให้มัดไหมถ่ายแบบและเป็นปกให้นิตยสารของเธอ มัดไหมตกลง แต่ขอแต่งตัวแต่งหน้าแบบแฟนซีแปลก ๆ

          รามิลฮึดกลับไปหามัดไหมอีก เขาไปจ้างให้มัดไหมเป็นแฟนเป็นเวลาสามเดือน รามิลกะยิงนกสองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือ ทั้งตัดคู่หมั้นที่เขาแสนเกลียด และตัดอัจฉราวดีที่เขารู้สึกว่าเริ่มรุกรานเขา และจะจับเขาจริง ๆ จัง ๆ เขาจะจ่ายค่าจ้างมัดไหมหนึ่งหมื่นเพราะประเมินว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้ แต่มัดไหมเรียกหนึ่งล้าน รามิลต้องยอมจ่าย มัดไหมเรียกเงินล่วงหน้าห้าแสนบาท รามิลนัดกับมัดไหมกินอาหารมื้อค่ำเพื่อปล่อยข่าวเธอเป็นแฟนคนใหม่ของเขา เขาพาเธอไปที่ร้านของ พลอยไพลิน เพื่อนรักของ อัจฉราวดี กะให้พลอยไพลินเห็นเต็ม ๆ ว่าเขามีแฟนใหม่ และเพราะที่ร้านของพลอยไพลินมักมีนักข่าวไปนั่งหาข่าวเป็นประจำด้วย มัดไหมแต่งชุดราตรี สวยจนรามิลตะลึง และเมื่อไปถึงร้านก็โดนพลอยไพลินเสียดสีขบกัด มัดไหมบอกรามิลว่าพลอยไพลินชอบรามิล ที่เธอกัดนั่นเพราะความหึง รามิลไม่เชื่อ พลอยไพลินโทรฟ้องอัจฉราวดี รุ่งขึ้นอัจฉราวดีไปหารามิลถึงบริษัท รามิลเฉย ๆ กับเธอ อัจฉราวดีอาฆาต บอกตัวเองว่าจะทำให้รามิลเจ็บจำไปจนตาย

          รามิลนัดพามัดไหมไปงานกาลา ดินเนอร์ วันที่ไปรับมัดไหม เขาเห็นหญิงสาวรูปร่างแบบเดียวกับมัดไหมยืนหันหลังสั่งงานอยู่ เขาเรียก แต่เธอคนนั้นไม่หันมา จนกระทั่ง อัคนี หัวหน้าคนงานบอกเธอจึงหันหาเขา รามิลตกใจ หน้าเธอเป็นแผลเป็นเละจนเหมือนหน้าผี เมื่อพูดกัน รามิลจึงรู้ว่าเธอคือภัครมัยคู่หมั้นของเขารามิลลืมความเกลียดชัง เขาสงสารเธอมาก ยิ่งภัครมัยมีทีท่าเจียมตัว และพูดทำนองว่าเขาโชคร้ายที่จะต้องเป็นคู่หมั้นหญิงหน้าตาอย่างเธอ รามิลยิ่งสงสารจนพูดแทบไม่ออก เขาพูดอ่อนโยนแสดงความเห็นใจเธอ แทนตัวเองว่าพี่ เรียกเธอว่าน้อง เหมือนที่เคยเป็นเมื่อตอนเด็ก ๆ มัดไหม หน้าผีเข้าบ้านไปหัวเราะกับติ๋มแทบตายว่ารามิลมีตาแต่หามีแววไม่ บอกอะไรก็เชื่อหมด ติ๋มเห็นใจรามิลมาก ให้มัดไหมเลิกเล่นตลกและบอกความจริงรามิล แต่มัดไหมบอกว่าเธอยังสนุกอยู่

          มัดไหมแกะหน้าผีแล้วออกไปต้อนรับรามิลในฐานะมัดไหมสาวใช้ อัจฉราวดียังตามตื้อสม่ำเสมอ จนวันหนึ่งเจอกับมัดไหมและนาตาชา เมื่อเธอพารามิลไปที่ห้องเสื้อของ ยังโซน หรือ วายซี ดีไซเนอร์มือใหม่ของไทยที่ไปโด่งดังมากในต่างประเทศ และอัจฉราวดี อยากเป็นนางแบบให้วายซีมาก รามิลเห็นมัดไหมในร้านอาหารอิตาเลียน เขานึกว่าเธอมากับหนุ่ม ไม่รู้ตัวเลยว่าฤทธิ์หึงขึ้นหน้า เขาไปกระชากตัวเธอ มัดไหมเพิ่งเสร็จจากการถ่ายแบบ และยังไม่ได้ถอดคอนแทกเลนซ์สีฟ้าออก เธอเลยทำตัวเป็นแม็ตตี้ พูดไทยไม่ชัดกับเขา รามิลมีทีท่าไม่เชื่อ แต่นาตาชาออกมาช่วยมัดไหมไว้ทัน อัจฉราวดีมาที่กลุ่ม เมื่อเห็นมัดไหมเธอตื่นเต้นมากว่าได้สัมผัสตัวจริงของนางแบบโลก เธอทักมัดไหมว่าแม็ตตี้ รามิลจึงสงบได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจว่ามัดไหมกับแม็ตตี้เป็นคนละคนกัน

          อัจฉราวดีพูดจาไม่เข้าหูนาตาชาเลยโดนนาตาชาด่าไป มัดไหมรู้ว่ารามิลต้องตามเรื่องถึงที่สุดเลยรีบกลับบ้าน แล้วให้ติ๋มสวมหน้ากากหน้าเละเป็นภัครมัยป่วยแล้วเธอดูแล รามิลตามมาถึงบ้านจริง ๆ และเมื่อเห็นภัครมัยปลอมอยู่กับมัดไหมเขาเลยเลิกสงสัย และสงสารภัครมัยหน้าผีขึ้นมาอีก เขาบอกมัดไหมให้บอกภัครมัยว่าคราวต่อ ๆ ไปที่เจอเขาไม่ต้องสวมฮู้ดปกปิดหน้าผี มัดไหมชื่นชมรามิลขึ้นมาหน่อย

          รามิลพามัดไหมไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ คือ แม่แก้ว คุณพิศมัย หรือ ย่าน้อย คุณอุมาพร กับ คุณอรรุจิ พี่น้องฝาแฝดผู้พูดกันคำทะเลาะกันสามคำ แต่รักกันมาก ทั้งสี่ท่านทราบความจริงแล้วว่ามัดไหมเป็นใครจึงพยายามร้ายเต็มที่ ถล่มใส่มัดไหมเต็มที่ แล้วต่างลุกไปโดยที่มัดไหมยังไม่ทันได้กราบ มัดไหมน้อยใจมาก เธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนซ้อนแผนของนาตาชากับแม่แก้ว เธอจำต้องค้างที่บ้านสวนตามคำสั่งของรามิล มัดไหมยังเผชิญแผนการดูถูกและกลั่นแกล้งของญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ของรามิล อัจฉราวดีตามตื้อรามิลทุกวันและไม่รู้ตัวเลยว่าถูกผู้ใหญ่ทั้งสี่ใช้เป็น เครื่องมือทดสอบความรักของรามิลกับมัดไหม

          มัดไหมไม่กล้ายอมรับว่าทุกคำพูดและทุกอาการที่เธอแสดงออกต่อรามิลนั้นเกิด จากความหึงหวง รามิลเองก็ไม่อยากยอมรับเหมือนกันว่าความฉุนเฉียวทุกวันของเขาเกิดจากความ รักมัดไหมสาวใช้คนนี้ ความที่รามิลรักมัดไหม และไม่อยากให้เธอจากไปทำให้เขาตัดสินใจพูดกับเธอว่าเขาคงต้องยอมแต่งงานกับ ผู้หญิงที่มีชาติตระกูลตามที่ญาติผู้ใหญ่เห็นสมควร แต่ถ้าเธอไม่รังเกียจเขาจะขอพาเธอหลบไปอยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ณ ที่ห่างไกลผู้คน จะรักและทะนุถนอมเธอไม่ให้เธอลำบากไปชั่วชีวิต มัดไหมโกรธ นั่นหมายถึงว่าเธอต้องเป็นเมียน้อย เธอตบหน้ารามิล

          ขณะที่มัดไหมกำลังเก็บ เสื้อผ้าจะหนีไปจากบ้านสวน อัจฉราวดีเข้ามาตอกย้ำความเจ็บปวดของเธออีกด้วยทีท่าสงบเสงี่ยมเป็นมิตร อัจฉราวดีบอกว่ารามิลเล่าทุกอย่างให้ฟังหมดแล้วว่ามัดไหมรับจ้างเป็นแฟนของ รามิลด้วยค่าจ้างล้านบาท และเมื่อเธอเห็นว่ารามิลเป็นฝ่ายเลิกสัญญาก่อนกำหนดเธอจึงขอให้รามิลจ่าย เงินให้มัดไหมให้ครบเพื่อว่ามัดไหมจะได้มีเงินไปลงทุนทำอะไรของตัวเอง จะได้ไม่ต้องเป็นคนใช้เขาต่อไป คราวนี้มัดไหมโกรธรามิลจริง ๆ ไม่ใช่โกรธแง่งอนชั่วแวบเหมือนครั้งก่อนๆ มัดไหมขอติดรถอัจฉราวดีเข้าเมือง อัจฉราวดีสมใจ

          รามิลตัดสินใจไปหามัดไหมคนหน้าผี เพื่อจะทำความใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้น แต่อีกใจก็จะไปเพราะความหวังว่าจะได้พบมัดไหมสาวใช้เจ้าหัวใจของเขาด้วย ตลอดเวลาที่อยู่กับมัดไหมหน้าผี รามิลไม่มีสมาธิเลย เขาคอยมองหามัดไหมสาวใช้ตลอด มัดไหมหน้าผีถาม แต่รามิลไม่บอกว่าเขาไม่สบายใจเรื่องอะไร เขาเบนเรื่องไปที่จะให้มัดไหมคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เรื่องใบหน้าเละ แต่มัดไหมบอกว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้วไม่ไปแล้ว แล้วในที่สุดรามิลก็พูดถึงมัดไหมสาวใช้จนได้ มัดไหมบอกว่าลาออกไปแล้วรามิลใจหาย เขาตัดสินใจถามมัดไหมว่าคนเราควรจะแต่งงานด้วยเหตุผลใด มัดไหมบอกว่าด้วยความรัก รามิลถามถึงความเหมาะสม มัดไหมยืนยันความรัก แต่ก็บอกว่าแล้วแต่ความจำเป็นเฉพาะตัวของแต่ละคนด้วย รามิลบอกว่าเขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว เพราะกระทั่งคนที่เขาคิดว่ารู้จักดีก็ยังไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เหมือนว่าคนเราทุกวันนี้ใส่หน้ากากใส่กัน เล่นเอามัดไหมสะดุ้งเพราะว่าเธอก็กำลังใส่หน้ากากอยู่จริง ๆ ด้วย รามิลสับสนมากกระทั่งไม่รู้ตัวเลยว่ามาจากบ้านมัดไหมตอนไหน

          ดนุพันธ์สรุปว่ารามิลรักมัดไหมสาวใช้ ให้เขาตามหาเธอ แต่รามิลบอกว่ามัดไหมมีโอกาสพบผู้ชายดี ๆ แต่ภัครมัยหน้าผีไม่มีใครนอกจากเขา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับภัครมัย ดนุพันธ์ไปเล่าทั้งที่รามิลบอกว่ารักมัดไหมสาวใช้ และที่บอกว่าจะแต่งงานกับภัครมัยให้นาตาชาฟัง โดยไม่รู้ว่ามัดไหมอยู่กับนาตาชาด้วย นาตาชาให้มัดไหมบอกความจริงกับรามิลก่อนที่นานไปเขารู้เอง มัดไหมเชื่อว่ารามิลจริงใจในกรณีมัดไหมหน้าผี แต่เธอยังอยากทดสอบความจริงใจของเขาต่อมัดไหมสาวใช้ต่ออีก ด้านรามิลก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงมีความรู้สึกใกล้เคียงกันกับผู้หญิงถึง สามคน

          สำหรับแม็ตตี้ เขาพอจะรู้ว่าเพราะเธอหน้าเหมือนกับมัดไหมสาวใช้ เขาโทรนัดแม็ตตี้ทานอาหาร เธอพูดถึงมัดไหมสาวใช้อีก รามิลตัดสินใจถามมัดไหมหน้าผีว่ามัดไหมสาวใช้อยู่ที่ไหน รามิลพยายามตามหามัดไหม ใจลอย มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อรถเขามาถึงหน้าไร่มนตราของมัดไหม สถานที่แรกที่เขาได้พบกับเธอ สาวสวยคนหนึ่งควบม้าอยู่ รามิลดีใจที่สุด เขาตะโกนเรียกเธอสุดเสียง เธอไม่ได้ยิน รามิลกดแตรรัว เจ้าตะวันสาดแสงม้าที่มัดไหมควบอยู่ตกใจ สลัดมัดไหมตกจากหลัง รามิลประคองมัดไหม เธอไม่เป็นไรมาก งอนเขาที่ทำให้ตกม้า แล้วรามิลก็งอนมัดไหมบ้าง

          เมื่อหนุ่มหล่อผมยาวขี่ม้า อีกตัวมาหามัดไหม มัดไหมเรียกเขาว่าวายซี รามิลเหม็นขี้หน้านายวายซีนี่ทันที และยิ่งงอนหนัก เมื่อมัดไหมสะบัดจากเขาไปหาวายซี ท่าทางเธอไว้ใจนายนั่นมากกว่าเขา เขาพาลว่าเธอแกล้งตกม้าเพื่อเรียกความสนใจ มัดไหมต่อปากต่อคำกับรามิล แล้วเผลอตกเป็นเหยื่อเมื่อโดนเขายั่วว่าสำออย เธอเดินไปขึ้นรถเขา กว่าจะรู้ตัวว่าโดนรามิลเจ้าเล่ห์ใส่ เธอก็ออกมาจากไร่กับเขา เขาจงใจยั่วเธอเพื่อแยกเธอจากวายซี รามิลสารภาพรักกับมัดไหม มัดไหมจึงต้องสารภาพแผนการทั้งหมดของเธอ และสารภาพว่ารักเขาเช่นกัน รามิลมีความสุขที่สุดในชีวิต 
ที่มา:http://drama.zubzip.com/?drama-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%87-428
    
teppabudmayateptidajamlang_kantana.jpg
    
    
teppabudmayateptidajamlang_kantana1.jpg

    
teppabudmayateptidajamlang_kantana2.jpg

เกาะ นางยวน เสน่ห์ธรรมชาติ น้ำทะเลใสสีมรกต

เกาะนางยวน เสน่ห์ธรรมชาติ น้ำทะเลใสสีมรกต
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบ คุณภาพประกอบจาก
คุณ ichewz

          ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือหากมีเวลาว่างเกิดอยากจะออกเดินทางท่องเที่ยวขึ้น มา และคุณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว เราขอแนะนำให้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะทำให้คุณพบกับความร่มรื่นในใจ ความสดใสที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติแสนสวย และที่นั่นคือ... เกาะนางยวน 
          "เกาะนางยวน" เป็นเกาะหนึ่งในจำนวน 100 เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ปลายของเกาะเต่า มองเห็นเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อด้วยหาดทรายสีขาว 3 สาย เสน่ห์ของเกาะนางยวนนั้น มาจากน้ำทะเลสีมรกตที่ใสจนมองเห็นตัวปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย และปะการัง ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างชัดเจน ส่วนกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการังปละปลาสวยงาม เล่นน้ำริมหาด จะว่าไปนักท่องเที่ยวส่วน ใหญ่ที่เลือกมาท่องเที่ยวและ พักผ่อนที่นี่นั้น เหตุเพราะมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว อากาศสดชื่น ทั้งยังมีความเขียวขจีของเขาเล็กๆ 3 เขารายรอบ และความงามของท้องทะเลมาบรรจบกัน 
  สำหรับที่พักบนเกาะนางยวนนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลายตามความชอบ ทั้งรีสอร์ทและบังกะโล ที่สร้างเล่นระดับได้อย่างสวยงามผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างที่สุด ทุกๆ หลังจะหันหน้าสู่ท้องทะเล ในมุมที่แตกต่างกัน สามารถนอนกินลมชมวิวที่สวยงามได้อย่างสบายๆ ในวันที่อากาศแสนดี
          หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีใจรักธรรมชาติ หลงรักน้ำทะเล ชอบความเป็นส่วนตัว และต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง อย่าลืมมาพักผ่อนที่ "เกาะนางยวน" นะคะ
ข้อควรทราบเมื่อขึ้นเกาะนางยวน

          เกาะนางยวน เป็นเกาะเอกชนที่เปิดรับนักท่องเที่ยวขึ้น เที่ยวเกาะ  คิดค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะ 30 บาท ห้ามน้ำขวดพลาสติก อาหาร กระป๋องเครื่องดื่มขึ้นเกาะ ห้ามเก็บเปลือกหอยหรือซากปะการัง ออกจากเกาะนางยวน ทั้งนี้ การดำน้ำที่เกาะนางยวนห้าม ใช้ตีนกบเด็ดขาด
การเดินทางไปเกาะนางยวน
          นักท่องเที่ยวสามารถ เดินทางไปเกาะนางยวนได้ โดยเช่าเรือหางยาวจากเกาะเต่ามาที่เกาะนางยวน (การเดินทางไปเกาะเต่าใช้ 2 เส้นทางคือ จากท่าเรือที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร) ซึ่งจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเกาะนางยวนอยู่ ใกล้กับเกาะเต่ามาก ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย สุราษฎร์ธานี โทร.0-7728-8818-9 และประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร.0-7728-3970

ที่มา:http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic_cache.php?table_id=1&cate_id=66&post_id=55752&title=%E0%A1%D2%D0%B9%D2%A7%C2%C7%B9-%E0%CA%B9%E8%CB%EC%B8%C3%C3%C1%AA%D2%B5%D4-%B9%E9%D3%B7%D0%E0%C5%E3%CA%CA%D5%C1%C3%A1%B5

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การเลี้ยงปลาคาร์ฟ

การเลี้ยงปลาคาร์ฟ








ปลาคาร์ฟ
.....ปลา เงินล้าน ที่มีคนนิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบันชนิดหนึ่ง คือ ปลาคาร์ฟ หรืออีกชื่อว่า แฟนซีคาร์ฟ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมันเลี้ยงง่าย โตไว อีกทั้งยังมีสีสันสวยงามอีกด้วย และเป็นปลาที่มีอายุยืนที่สุดในโลก เช่นปลาคาร์ฟ ชื่อ "ฮานาโกะ" ของนายแพทย์ผู้หนึ่งที่เมืองกูฟี ประเทศญี่ปุ่น มีอายุยืนถึง 266 ปี

.....ปลาคาร์ฟ ทางสมาพันธ์ ผู้เลี้ยงปลาแฟนซีคาร์ฟแห่งญี่ปุ่น ได้แบ่งประเภทได้ดังต่อไปนี้
1. โคฮากุ -> มีสีแดงขาวสลับกัน นับเป็นพันธุ์มารตฐานที่นิยมเลี้ยงกันมาก
2. ไทโช-ซันเก้ -> มีสีขาวแดง และดำสลับกัน แต่ที่หัวจะมีสีแดงเป็นหลักมีสีดำมาสลับ
3. โชวา-ซันโซกุ -> มีสีแดง ขาว และดำ โดยมีสีแดงขาวเป็นหลัก และมีสีดำมาสลับลำตัวถึงใต้ท้อง
4. อุตซูริโมนะ -> มีสีดำเป็นลายแถบ คล้ายตาข่ายสลับด้วยสีขาว
5. เบกโกะ -> มีลายเหมือนกระดองเต่า มีสีดำเป็นตาสลับเหมือนตาข่ายตลอดทั้งลำตัว เกล็ดสีขาว
6. อาซากิ ซูซุย -> พันธุ์นี้ผสมของเยรมัน มีวีน้ำเงินอ่อนสลับเทา มีลายเหมือนตาข่ายคลุมอยู่ทั้งตัว
7. โคโรโมะ -> พันธุ์นี้ผสมระหว่างโคฮากุกับอาซากิ ลำตัวจึงมีเกล็ดสีน้ำเงินเหลือบผสมตลอดทั้งตัว
8. คาวาริโมโนะ -> พันธุ์นี้มีสีสันประหลาดกว่าปลาพันธุ์อื่น เข้าใจว่าเกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์เบกโกะกับคินกินริน
9. โอกอน -> พันธุ์เหลืองทองมีเกล็ดสีขาวเงางาม และมีสีทองผสมกับสีเหลืองอร่ามทั้งตัว
10.ฮิการิ-อุตซูริโมนะ -> ลำตัวสีเหลืองอ่อน มีสีแดงเป็นหลักสลับดำตลอดทั้งตัว
11.ฮิการิโมโย-โมนะ -> ลำตัวสีเหลืองอ่อน มีสีแดงเป็นหลักสลับกันตลอดทั้งตัว
12.คินกินริน -> เกร็ดสีทองและเงินสลับกันทั้งตัว กลางลำตัวและส่วนท้ายมีสีแดงมาปะปนบ้าง
13.ตันโจ -> ลำตัวขาวบริสุทธิ์ ที่หัวมีจุดสีแดงเข้ม พันธุ์นี้ดูสวยงามอละเด่นกว่าพันธุ์อื่นมาก

วิธีเลี้ยงปลาคาร์ฟ -> ควรเริ่มต้นด้วยการขุดบ่อขนาด 80 x 120 ลึก 50 เซนติเมตร มีสะดือที่ก้นบ่อขนาด 1 x 2 ฟุต ลึกประมาณ 4-6 นิ้ว เพื่อเป็นไว้ที่เก็บปลาและสิ่งสกปรก และติดตั้งระบบถ่ายเทน้ำเสียเพื่อช่วยให้น้ำในบ่อสะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วย

บ่อที่จะใช้เลี้ยงปลาคาร์ฟ -> ควรเป็นบ่อซีเมนต์เพราะสามารถดัดแปลงเป็นบ่อธรรมชาติได้ง่าย มีตะใคร่น้ำเกิดและเกาะได้เร็ว ซึ่งตะใคร่น้ำนั้นจะเป็นอาหารที่ดีของปลาและสามารถดูดสิ่งสกปรหและแอมโมเนีย ที่อยู่ในน้ำได้อีกด้วย และบ่อนี้ควรจะตั้งอยู่ในที่มีร่มเงาต้นไม้ใหญ่ได้ร่มรื่นพอควร อย่าให้อยู่กลางแจ้งเพราะจะทำให้ปลามีสัสันที่จืดจางลง และยังโตช้าลงไปอีกด้วย

น้ำที่ใช้เลี้ยงปลาคาร์ฟ -> ควรเป็นน้ำประปาจะดีกว่าน้ำชนิดอื่น เพราะน้ำประปามีสภาพเป็นกลาง ถ้าใช้น้ำฝนจะทำลายสีของปลาและปลาอาจเกิดโรคได้ง่าย ส่วนน้ำจากแม่น้ำลำคลองก็ไม่เหมาะ เพราะอาจมีเชื้อโรคติดมาเป็นอันตรายกับปลาได้ หากไม่มีน้ำประปา ต้องใส่ยาฆ่าเชื้อและเติมปูนขาวเพื่อปรับสภาพน้ำจากกรดให้เป็นกลางเสียก่อน แล้วค่อยนำมาเลี้ยงปลาได้

บ่อที่ใช้เลี้ยงปลาคาร์ฟ (เพิ่มเติม) -> ทางที่ดีต้องติดตั้งระบบหมุนเวียนของน้ำ และเครื่องพ่นน้ำ เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้น้ำในบ่อถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา และมีออกซิเจนเพียงพอกับปลาด้วย

การนำปลาคาร์ฟมาเลี้ยง -> เมื่อเตรียมบ่อและน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การจะหาปลาคาร์ฟมาเลี้ยง ควรหาลูกปลาที่มีอายุ 1-2 ปี มาเลี้ยง ไม่ควรจะนำปลาขนาดใหญ่มาเลี้ยง และปลาชนิดอื่นหากไม่จำเป็นไม่ควรนำมาเลี้ยงรวมกับปลาคาร์ฟ เพราะอาจนำเชื้อโรคมาให้ปลาคาร์ฟได้

อาหารที่ปลาคาร์ฟชอบ -> คือ เนื้อปลาป่น กุ้งสดบด เนื้อหอย เนื้อปู ปลาหมึก ข้าวสาลี รำ ผักกาด ข้าวโพด แมลง สาหร่าย ตะใคร่น้ำ แหน ลูกน้ำ หนอนแดง ถั่วเหลือง ขนมปัง และอาหารสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด

หลักการให้อาหารปลาคาร์ฟ -> ควรให้ไม่เกินวันละ 2 เวลา คือเช้ากับเย็น ข้อควรจำในการให้อาหารคือ ต้องให้ตามเวลา เพื่อปลาจะเกิดความเคยชินและเชื่องกับผู้ที่เลี้ยง และอาหารที่ให้ต้องกะให้พอกับจำนวนปลา อย่าให้น้อยหรือมากเกินไป ทั้งนี้ต้องคอยสังเกตว่า ปลากินอาหารอย่างไร? ถ้าอาหารหมดเร็ว แสดงว่าปลายังต้องการอาหารเพิ่ม ก็เพิ่มลงไปอีเล็กน้อย แต่ถ้าอาหารยังลอบน้ำอยู่ ก็รีบตักออกเพราะว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้น้ำเสียเร็ว

การเปลี่ยนน้ำ -> เมื่อสังเกตเห็นน้ำในบ่อเริ่มขุ่นและมีสิ่งสกปรกมาก ต้องรีบเปลี่ยนน้ำทันที และขณะที่ถ่ายน้ำ ออก 1 ใน 3 ส่วนของบ่อจะต้องเพิ่มน้ำใหม่แทนในปริมาณเท่าเดิมโดยใช้น้ำประปาที่เก็บไว้ ประมาณ 2-3 วันหลังจากที่คอรีนระเหยแล้ว อย่าใช้น้ำประปาที่รองจากก๊อกใหม่ๆ หรือน้ำประปาที่เก็บไว้นานเพราะจะเกิดอันตรายต่อปลาได้

การรักษาระดับอุณหภูมิน้ำในบ่อ -> ควรรักษาระดับอุหภูมิของน้ำในบ่อ ให้อยู่ในระดับ 20-25 องศาเซ็นติเกรด หากร้อนจัดหรือเย็นจัด จะทำให้ปลาเติบตอย่างเชื่องช้า

 

การรักษาและป้องกันโรคของปลาคาร์ฟ -> โรคที่เกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้ :)
1.โรคโซโคลกิต้า -> เกิดจากการถ่ายน้ำในบ่อบ่อยครั้งเกินไป การย้ายปลาบ่อยครั้งเกินไป เชื้อโคลกิต้าที่อยู่ในน้ำจะทำลายปลา ทำให้เกิดเป็นแผลขุ่นที่ผิวหนังและตายไปในที่สุด
วิธีรักษา -> ควรใช้เกลือป่นและด่างทัทิมละลายละลายให้เจือจางลงในน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโซโคลกิต้า ก่อนจะนำไปใช้เลี้ยงปลา สำหรับในรายที่ปลาเป็นโรคนี้ ให้แช่ปลาในน้ำยานี้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง

2.เหงือกเน่า -> เกิดจากเชื้อราคอลัม พาริส ทำให้ปลามีอาการซึม และกินอาหารได้น้อยลง ไม่มีแรงว่าย
วิธีรักษา -> ใช้ยาปฏิชีวนะ ออริโอมัยซินผสมกับอาหาร ในอัตราส่วน 1 ช้อนต่ออาหารปลา 1 ขีด ให้ปลากินติดต่อกัน 3-4 วัน และจับปลาที่มีอาการมากในน้ำที่ผสมกับฟูราเนสเป็นเวลา 10 นาทีทุกวัน จนปลามีอาการดีขึ้น

3.หางและครีบเน่า -> เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในน้ำซึ่งเนื่องมาจากปลาขี้และเศษอาหาร ที่ตกค้างอยู่ในบ่อทำให้ครีบและปลายหางหลุดหายไป และจะลามไปทั่วตัว
วิธีรักษา -> ต้องรีบถ่ายน้ำ ทำความสะอาดบ่อโดยเร็วพร้อมกันนั้น ใช้มาลาไคท์กรีนผสมกับน้ำในอัตรา 1 ขีด ต่อน้ำ 1 ลิตร จับปลาแช่ในน้ำดังกล่าวติดต่อกัน 3-4 วัน จนดีขึ้น

4.เนื้อแหว่ง -> เกิดจากปลาได้รับบาดเจ็บเพราะถูกหินหรือต้นไม้ในบ่อ จนเป็นแผลแล้วเชื้อโรคจากน้ำที่สกปรกเกาะตามผิวหนัง ทำให้เกล็ดหลุดแล้วมีจุดขาวๆ ตามลำตัวเกาะติดตามผิวหนัง ทำให้เกิดอาการอักเสบบวมเป็นรอยช้ำเลือด จนตายไปในที่สุด
วิธีรักษา -> ใช้ยาปฏิชีวนะออริโอมัยซิน ผสมกับอาหารในอัตรา 1 ช้อนชา ต่ออาการ 1 ขีด ให้ปลากินติดต่อกันจนหายขาด

5.เชื้อราบนผิวหนัง -> เกิดจากเชื้อราแพร่กระจายบนผิวหนังปลา ทำให้เนื้อปลาเน่าเปื่อย ถ้าไม่รีบเร่งรักษาปลาจะตายเร็ววัน
วิธีรักษา -> นำปลามาแช่ในน้ำที่เจือด้วยเกลือป่นจางเอาสำลีชุบน้ำยาฟูราเนสทำความสะอาด ที่บาดแผลแล้วจับปลาแช่ในน้ำผสมยา ฟูราเนสติดต่อกัน 5-7 วัน จนกว่าปลาจะหายขาด

6.ผิวหนังขุ่น เกล็ดพอง -> เกิดจากการที่ให้อาหารที่มีโปรตีนและไขมันมากเกินไป ปลาปรับตัวไม่ทัน จะทำให้ระบบย่อยอาหารของปลาไม่ทำงาน ตามผิวหนังจะเห็นรอยเส้นเลือดขอดขึ้น ผิวหนังเริ่มบวมและอักเสบ
วิธีการรักษา -> ต้องแช่ปลาในน้ำเกลือจางๆ และให้กินอาหารผสมด้วยยาปฏิชีวนะออริโอมัยซิน และให้กินอาหารประเภทผักเสริมมากกว่าเดิม

7.ลำใส้อักเสบ -> เกิดจากการที่ปลากินอาหารหมดอายุ มีเชื้อราปนอยู่ในอาหาร อาการเช่นนี้จทำให้ปลาไม่ค่อยกินอาหาร มีมูกเลือดปนออกมากับอุจจาระ บางครั้งจะถ่ายออกมาเป็นน้ำขุ่นๆ
วิธีรักษา -> ต้องรีบทิ้งอาหารเก่าทั้งหมด เอาปาขึ้นมาแช่น้ำเกลือที่เจือจาง แล้วให้อาหารอ่อนๆ เช่น ลูกไรแดงหรือเนื้อปลาบดอ่อน แล้วค่อยให้อาหารสำเร็จรูปตามปกติ

8.เห็บ -> เกิดจากตัวที่ติดมากับอาหารประเภทผัก ซึ่งขาดการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง และติดตัวมากับปลาตัวใหม่ ตัวเห็บนี้มักจะเกาะอยู่ใต้เกล็ดปลา ดูดเลือดปลาเป็นอาหาร ทำให้ปลาว่ายน้ำติดขัดไม่สะดวก ปลาจะเอาตัวถูตามผนังบ่อหรือเศษหินภายในบ่อ จนเกิดบาดแผลในเวลาต่อมา
วิธีรักษา -> ใช้น้ำยามาโซเต็นผสมลงในบ่อเพื่อป้องกัน ทำลายตัวเห็บติดต่อกันราว 2-3 อาทิตย์ แล้วค่อยหยุดใช้ยา

9.หนอนสมอ -> ศัตรูร้ายอีกชนิดหนึ่งของปลาคือ หนอนรูปร่างคล้ายสมอ ยาวเหมือนเส้นด้าย มันจะเจาะผนังตัวปลาทำให้ติดเชื้อได้ และตามผิวหนังปลาจะมีรอยสีแดงเป็นจ้ำๆ ครีบและเหงือกจะอักเสบ ปลามีอาการซึมเบื่ออาหาร
วิธีรักษา -> เช่นเดียวกับการรักษาเห็บ กล่าวคือ นำน้ำยามาโซเต็นผสมกับน้ำ จับปลาแช่น้ำยาทุกๆ 3 วัน จนกระทั่งปลามีอาการดีขึ้น และในบ่อเลี้ยงก็ควรหยดน้ำยานี้ลงฆ่าทำลายไข่ตัวหนอนสมอด้วย

10.พยาธิเส้นด้าย -> ติดมาจากอาหาร ลูกน้ำหนอนแดง ที่ปลากินเข้าไป จะเจาะเข้าไปเจริญเติบโตในตัวปลา และออกมาสร้างรังตามผิวหนังใต้เกล็ดปลา ทำให้ผิวหนังปลาแดงช้ำๆ
วิธีรักษา -> ให้นำปลาไปแช่ในน้ำเกลือที่เจือจางประมาณ 1-2 วัน พยาธิก็จะตายและปลามีอาการดีขึ้นและควรใส่น้ำยามาโซเต็นผสมลงในบ่อ เพื่อฆ่าใข่ของมันด้วย

การเพาะพันธุ์ปลาคาร์ฟ -> การเพาะพันธุ์ปลาคาร์ฟ ต้องเริ่มจากการคัดเลือกพันธุ์พ่อ พันธุ์แม่ที่ดีก่อน ทั้งนี้ เพื่อจะได้ลูกปลาที่ดีและแข็งแรง

หลักการพิจารณาคัดเลือกพันธุ์ -> การเลือกพันธุ์ พ่อ-แม่ ของปลาคาร์ฟนั้น ควรพิจารณาที่สีสันสวยสดใส รูปร่างขนาดเดียวกัน อายุของปลาต้องอยู่ระหว่าง 3 ปี ถึง 10 ปี ตัวปลาขนาด 40-50 เซนติเมตร

การดูเพศปลาคาร์ฟ -> การดูเพศของปลาคาร์ฟว่าตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมียนั้น มีข้อควรสังเกตดังนี้

1.รูปร่างตัวเมียมีขนาดใหญ่และสวยกว่า ตัวผู้รูปร่างสั้น
2.ส่วนหัวของตัวเมียได้ส่วนสัดกับลำตัว ส่วนตัวผู้หัวใหญ่ ตัวสั้น
3.ท้องตัวเมียดูอ้วนและจับดูนิ่ม ตัวผู้ท้องแห้งไม่นิ่ม
4.ครีบ หางตัวเมียไม่แข็ง ตัวผู้แข็งแรงกว่า 5.ช่องทวารตัวเมียยาวตามขวาง นูนขึ้น ตัวผู้ยาวตามลำตัว แฟบและแบน เมื่อกดตรงช่องทวารตัวเมียจะมีขี้ออกมาอย่างเดียว ส่วนตัวผู้จะมีน้ำขุ่นๆ ไหลออกมา โดยเฉพาระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนจะมีเม็ดเล็กๆ เป็นจุดขาวๆ เรียงขึ้นตั้งแต่ครีบ แก้มจนถึงช่องท้อง

เมื่อคัดเลือกพันธุ์ได้แล้ว เอาสาหร่ายเทียมที่ทำด้วยไนล่อนวางไว้ลงในอ่าง สำหรับเป็นที่วางไข่ให้ตัวเมียวางไข่ในเวลากลางวัน โดยตัวผู้จะไล่ให้ตัวเมียวางไข่จนหมด แล้วตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อผสม

.....ตอน เช้า หลังจากวางไข่และผสมน้ำเชื้อแล้ว จับปลาตัวผู้และตัวเมียออก ให้ไข่เริ่มฟักตัว ภายใน 3 วัน ไข่จะเริ่มฟัก และประมาณ 15 วันต่อมา จะเป็นตัวอ่อน

.....ช่วงเวลาที่เป็นตัวอ่อนนี้ ควรให้แพลงค์ตัน ลูกไรแดง หรือไข่แดงสุก กรองผ้าให้ตัวอ่อนกิน แต่ระวังอย่าให้กินมากและอย่าให้น้ำเสีย จากนั้นประมาณ 3 เดือน ลูกปลาจะเริ่มแสดงสีสันแสดงให้รู้ว่าเป็นปลาคาร์ฟชนิดไหน

ที่มา :http://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A&ie=utf-8&oe=utf-8&aq=t&rls=org.mozilla:en-US:official&client=firefox-a

รองเท้าบอกบุคลิกสาวตามราศี

รองเท้าบอกบุคลิกสาวตามราศี article


รองเท้าบอกบุคลิกสาวตามราศี

การเลือกซื้อรองเท้าหนึ่งคู่บางคนเลือกแบบอินแฟชั่น บางคนเลือกที่ใส่สบายมาก่อน
แต่คงไม่ค่อยมีใครคิดถึงการเลือกซื้อรองเท้าตามราศีเกิดของตัวเอง ซึ่งห้างดิ เอ็มโพเรียม
มีข้อมูลเรื่องนี้นำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่ง

เริ่มต้นที่ สาวราศีมังกร เป็นคนพูดน้อยแต่มีความรับผิดชอบเรื่องงานสูงมาก สาวราศีนี้จึงเหมาะกับรองเท้าคู่เก่งที่ให้ความคล่องตัว
เช่น รองเท้าส้นแบน ยิ่งถ้าเลือกรองเท้าหัวมนเหมือนรองเท้าบัลเลต์จะยิ่งทำให้ดูน่ารักและมี เสน่ห์ขึ้นอีกเยอะ ไม่ว่าจะใส่คู่กับ
กระโปรง หรือกางเกงยีนส์ก็ดูดีไปหมด ส่วนที่รองเท้าที่เหมาะกับสาวราศีมังกรคือ สีน้ำเงิน สีฟ้า และสีน้ำตาล
สาวราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นสาวโปรดปรานการเข้าสังคม เป็นคนสนุกสนานเฮฮา และอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆ จึงควรเลือกใส่รองเท้า
ที่มีลูกเล่นประดับประดาพราวพรายด้วยประกายวิบวับ อย่างคริสตัลสี จะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูโดดเด่น สีรองเท้าที่เหมาะกับ
สาวราศีกุมภ์ต้องเป็นสีสดๆ เช่น สีแดงสด ม่วงสด หรือสีเมทัลิก อย่าง เงินและทอง
สาวราศีมีน แม้ภายนอกจะดูขี้อายกว่าสาวราศีอื่นๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งตัวของสาวราศีนี้แล้วก็ไม่ยอมน้อยหน้า รองเท้าที่
เหมาะกับสาวราศีปลาคู่ควรเป็นรองเท้าที่มีสายรัดส้น หรือแบบไม่มีสายรัดก็ได้ แต่ต้องทำจากผ้าซาตินสีหวานๆ ช่วยแสดงความ
ละเอียดอ่อน และโรแมนติคได้เป็นอย่างดี สีรองเท้าที่เหมาะกับสาวราศีนี้คือ สีพาสเทล เช่น ชมพูอ่อน เขียวอ่อน น้ำตาลเอิร์ธโทน
สาวราศีเมษ เรื่องความมั่นใจ ไอเดียดีๆ และความซุปเปอร์เทรนดี้ สำหรับรองเท้าคู่โปรดปรานที่ช่วยให้สาวราศีนี้โชคดี
ทั้งในเรื่องของความรัก และหน้าที่การงานได้อยู่ตลอดเวลาควรเป็นรองเท้าส้นเล็กแหลมที่ช่วยเสริมความ เป็นผู้หญิง
และสีรองเท้าที่เหมาะคือ แดงสด ฟ้าสด และน้ำตาล

สาวราศีพฤษภ ที่ เป็นนักปฏิบัติ ชอบค้นหาอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาชนิดที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง รองเท้าคู่กายที่ขาดไม่ได้ของสาวราศีนี้
จึงต้องเป็นแบบที่เน้นประโยชน์ใช้ สอย ทนทานและดูแลรักษาง่าย พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ นอกจากรองเท้าบู๊ตแล้วยังมีรองเท้า
คัตชูหัวมน ซึ่งจะช่วยเสริมให้ดูหนักแน่น มั่นคง เอาจริงจังขึ้น สำหรับสีรองเท้าที่ควรเลือกซื้อคือ สีดำ น้ำตาล น้ำเงิน แดงเลือดหมู
สาวราศีมิถุน จากบุคลิกที่เป็นสาวเปรี้ยวและเซ็กซี่อยู่ในตัว นอกจากนั้นยังเป็นสาวนักอ่านตัวยงเกาะติดเทรนด์แฟชั่นอยู่เสมอ
รองเท้าทรงหัวแหลม ช่วยทำให้ดูเพรียวก็จะช่วยส่งเสริมความมั่นใจ สีรองเท้าที่เหมาะกับสาวเมถุนคือ สีฟ้า เขียว เหลือง ดำ

สาวราศีกรกฎ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวอาร์ติสต์ชอบทำอะไรตามอารมณ์ ไม่สนใจกฎเกณฑ์นั้น แนะนำให้เลือกรองเท้าส้นเตี้ย
เพราะจะทำให้ดูเป็นสาวนุ่มนวลน่าทะนุถนอม สีรองเท้าที่ควรเลือกซื้อคือ สีน้ำตาล สีฟ้า สีน้ำเงิน สีเขียว

สาวราศีสิงห์ สาวราศีนี้แต่งตัวอินเทรนด์อยู่ตลอดเวลา และยังเป็นสาวกแบรนด์เนมอันดับต้นๆ อีกด้วย รองเท้า
ที่จะช่วยสร้างเสน่ห์และเพิ่มความน่ารักให้กับสาวราศีนี้ต้องเป็น รองเท้าส้นสูง ซึ่งจะช่วยทำให้ขาดูเรียวเพรียวขึ้น
ส่วนสีรองเท้าที่เหมาะกับราศีนี้ ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีทอง และสีเงิน
 
สาวราศีกันย์ ซึ่งเป็นสาวที่ได้ชื่อว่ามีความสามารถเฉพาะตัวในการแต่งตัวแบบ มิกซ์ แอนด์ แมตช์ ให้เข้ากันได้อย่างไร้ที่ติ
ยิ่งถ้าสาวราศีนี้เลือกใส่รองเท้าสไตล์คลาสสิคอย่าง รองเท้าส้นสูงไม่มีสายรัดหรือเปิดด้านหน้า จะช่วยให้การงานปลอดโปร่ง
จากปัญหาทุกประการ สำหรับสีรองเท้าของสาวราศีนี้คือ สีเขียวหยก ม่วง น้ำตาล ดำ
สาวราศีตุล ด้วยบุคลิกเรียบโก้ของสาวตุล แน่นอนว่ารองเท้าที่สาวราศีนี้เลือกใส่จะต้องไม่ค่อยมีดีเทลจุกจิกนัก
ถ้าหากเลือกรองเท้าส้นเตารีดน่าจะเข้ากัน และสีของรองเท้าสำหรับราศีตุลคือ สีขาว เอิร์ธโทน ฟ้า น้ำเงิน

สาวราศีพิจิก ลักษณะเด่นของสาวราศีนี้คือเป็นคนขรึม ชอบใช้ชีวิตอิสระและมีโลกส่วนตัวสูง แม้บางครั้งเจ้าอารมณ์
เอาใจยาก แต่ก็โกรธง่ายหายเร็ว ถ้าใส่รองเท้าแบบเปลือยๆ จะช่วยเสริมท่วงท่าลีลาการเดิน สีรองเท้าที่เหมาะคือ
แดงเข้ม น้ำเงิน ดำ
 
สุดท้ายกับสาวราศีธนู สาวช่างแต่งตัว ขี้เล่น และชอบสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ให้กับชีวิต รองเท้าที่เหมาะกับสาวราศีนี้
จึงเป็นรองเท้าหนังสีสันชวนสะดุดตาที่มาพร้อมกับลูกเล่นวัสดุตกแต่งต่างๆ ทั้งโบว์ ดอกไม้ เฟอร์ หรือผ้าพิมพ์ลายกราฟิก
สีรองเท้าที่เหมาะกับสาวธนูคือ แดง ม่วง เขียว ชมพู

ที่มา...บทความจาก OK Nation Blog

กระเป๋าแบรนด์เนม

ทำไมกระเป๋าแบรนด์เนม ถึงได้แพงขนาดนี้



เพื่อนๆ เคยคิดไหมค่ะว่า ทำไมกระเป๋าแฟชั่น พวก กระเป๋าแบรนด์เนม กระเป๋าหลุยส์ ต่างก็มีราคาที่สูงมากทีเดียว  แล้วแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าแบรนด์เนมเหล่านี้ มาจากไหนกัน คำตอบมีอยู่ในนี้แล้วคะ
ถ้าจะให้พูดถึงรุ่นคลาสสิกของแอร์เมสก็คงจะเป็นรุ่นนี้ Birkin Bag (เบอร์กิ้น แบ็ค) คงจะเป็นตัวอย่างทีดีที่สุดว่าทำไมกระเป๋าใบหนึ่งถึงมี ..ราคากว่าครึ่งล้านบาท! กระเป๋ารุ่นเบอร์กิ้น แบ็ค นั้นตั้งตามชื่อนักแสดงดังอย่าง เจน เบอร์กิ้น ต้นกำเนิดจริงๆ ก็มาจากตัวเองนั่นแหละ เมื่อครั้งหนึ่งที่เธอนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวสุดหรูของ CEO ของแอร์เมส ขณะที่เธอกำลังหยิบสมุดบันทึก
แอร์เมสของเธอขึ้นมานั้นกระดาษเอกสารของเธอได้หล่นกระจัดกระจายเต็มไปทั่ว เธอได้บอก กับ CEO ว่ากระเป๋ารุ่นใหม่ๆ นั้นใช้งานไม่ค่อยได้เรื่อง เธอเสนอว่าอยากจะออกแบบกระเป๋าสักรุ่นให้กับแอร์เมส หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หาหนังที่ต้องการได้ และพูดคุยกับทางแอร์เมส สุดท้ายกระเป๋ารุ่นนี้ก็ได้ทำออกจำหน่ายจริง และตั้งชื่อตามเธอด้วย อีกทั้งเบอร์กิ้น ยังเปน
กระเป๋าที่เป็นสัญลักษณ์ ของแอร์เมสจนกระทั่งทุกวันนี้ ปัจจุบันกระเป๋าเบอร์กิ้นมีราคาเกือบหลักแสน ตัดเย็บและทำตัวกระเป๋าทั้งใบด้วยช่างชำนาญการพิเศษและใช้เวลา กว่า 48 ชั่วโมงกว่าที่แต่ละใบจะเสร็จเรียบร้อย อีทั้งยังการควบคุมการผลิตไม่ให้เกิน 200 ใบต่อปี ว่ากันว่าผู้ที่ตั้องการสั่งจองอาจจะต้องรอนานถึง 5 ปี กว่าจะได้มาครอบครองส่วนรุ่นที่แพงที่สุดคือ รุ่นหนังจระเข้ราคาอยู่ที่ใบละ 1,800,000 บาท น่าตกใจเลยทีเดียว แต่กระเป๋าใบนี้ไม่ใช่เพียงสิ้นค้าแฟชั่นเท่านั้นนะ เพราะเอบร์กิ้นได้กลายมาเป็นการลงทุนอีกอย่างหนึ่งไปแล้ว เพราะกระเป๋ารุ่นนี้มีแต่ราคาขึ้นและขึ้นเท่านั้น แต่ขอบอกว่าไม่ใช่มีเงินแล้วจะซื้อได้นะจ๊ะ เพราะต้องรอ รอ รอ แล้วก็ รอ อีกด้วย..



อีก แบรนด์ที่ราคาสูงไม่แพ้กัน “Balenciaga” (บาลองเชียก้า) เป็นอีกแบรนด์เก่าแก่ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1914 ที่ประเทศสเปน และเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่สังคมชั้นสูงเมื่อราชวงศ์ของสเปนต่างสวมใส่ แบรนด์นี้กันอย่างเป็นประจำ หลังจากสงครามกลางเมืองที่สเปนทำให้บาลองเชียก้าต้องปิดร้านที่สเปนลง และย้ายไปปักหลักที่ปารีส ปัจจุบันนี้บาลองเชียก้ามีดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง นิโคลาส เกรสิแยร์ เป็นผู้ดูแลดีไซด์ทั้งหมด บาลองเชียด้าโด่งดังจากกระโปรง Bubble Skirt ที่ยังคงเปนอมตะ และผลิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ ส่วนกระเป๋ายอดฮิต และแสนแพงของบาลองเชียก้านั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการขับขี่มอเตอร์ไซด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น “Lariat” แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าแรนด์ใหญ่ระดับนี้กลับมามีช็อปอยู่น้อยมากๆ มีเพียงสองสาขาเท่านั้นในอเมริกา อีกทั้งยังมีสาขาในกรุงเทพฯ ด้วย และเหมมือนกับยี่ห้ออื่นทั่วๆ ไป กระเป๋าของบาลองเชียก้า ถ้าแพงนั้น แพงจากคุณภาพของหนังที่ใช้ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่บางแต่แข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูง กระเป๋าของ บาลองเชียก้ามีชื่อเสียงตรงที่การใช้งาน ว่ากันว่าคุณไม่จำเปนต้องรักษาเลยเพราะว่ากระเป๋าของบาลองเชียก้านั้นยิ่ง เก่ายิ่งสวย ยิ่งหนังยับย่นมากเท่าไหร่ ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น อีกทั้งไม่ต้องกลัวของปลอมอีกด้วย เพราะหนังที่เป็นลักษณะเฉพาะของนั้นไม่ว่าจะปลอมอย่างไรก็ไม่มีทางเหมือนแน่ นอน กระเป๋าบาลองเชียก้าสนนราคาเริ่มต้นที่ใบละ 50,000 บาท จนถึงหลายแสนบาท
ที่มา:http://bagth.com/

3.2.1 (ทรี ทู วัน)




3.2.1 (ทรี ทู วัน)          

          3 Hip Hop 2 หนุ่ม 1 สาว เตรียม Countdown สู่ความมันส์
Tag มือ มา Rap ให้คุณ WoW ไปกับ Pop - Hip Hop New Style อะไรจะเกิดขึ้น!!  


          Are U Ready? 

          3

          2

          1

          GO! 

          3.2.1   Start โชว์ Step ให้ทุกคน Check ระดับ 1st Level กันไปแล้วใน “KamiKaze Wave
          3.2.1 (ทรี ทู วัน) 2 หนุ่ม 1 สาว พร้อมพาสาวก kamikaze  COUNTDOWN! สู่ความมันส์
          3.2.1 ออกตัวเต็มรูปแบบ กับงานชิ้นแรก ที่ Tag Team ลุยกันทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง  ผลัดกันร้อง
      ผลัดกันแร๊พ สุมหัวกัน Shake จนมันส์ได้ที่ กับ single แรก เขย่า 
 (3.2.1 Shake it ah)
          3.2.1 กับงานสไตล์ T-HOP (ที ฮอบ) ส่วนผสมระหว่าง Thai & Hip-Hop  จับมา Shake เข้าด้วยกันจนลงตัว
      “ใครใคร่โยก ใครใคร่เยก” จัดไปตามสไตล์ ท่าไหนไม่สำคัญ 
3.2.1 เน้นมันส์อย่างเดียว 


เขย่า  (3.2.1 Shake it ah)


          Written By ธรรศ จันทกูล
          Arranged/Composed By ประทีป  สิริอิสสระนันท์ (prateep siri-issranan)
          Lyric Rap By  T.J. 3.2.1 


          Ready To Know >>> 3.2.1 

          Poppy 3.2.1 (ป๊อปปี้) 15 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนไม่ Shake
          T.J. 3.2.1 17 ปี  ที่ฝึกแต่ง ฝึกร้อง ฝึกแร๊พ จนฝีมือได้ที่ เตะหูทีมงาน KamiKaze เข้าให้เลยต้องให้ T.J. มา Shake ใน 3.2.1 พร้อมฝากผลงานเบื้องหลังไว้กับศิลปิน K-otic, หวาย, พายุ
          Gavin 3.2.1 (กวิน) 17 ปี กับชีวิต (ลูก) ครึ่งๆกลางๆ  ระหว่างไทย-อังกฤษ ไม่ได้ทำให้ Gavin ลดความกวนลงไปได้เลย จะ Beat Box หรือ Wakeboard มันส์ได้ แค่ Shake it ah 






Profile


Gavin 
: อยากเล่นอะไรมันส์ๆ เสียวๆ บอกกวินได้..เดี๋ยวจัดให้..



KZ ID : Gavin Duval
Age : 17 (19 เม.ย. 1992)
Nationality : Thai - English
School : Bangkok Patana
Hobbies : Wakeboarding, Basketball, Golf
Specialist : ให้ทำ Beat box พร้อมซ้อมท่า Wave ร้อยรอบ ก็ยังสู้ไหว
Wave Connect : TJ is da best producer ever.
What’s your KamiKaze?: My soul!



Poppy
: เกิดมาเพื่อร้อง เพื่อแดนซ์ เห็นเซ็กซี่อย่างเงียะ ป๊อปปี้ห้าวกว่าที่คุณคิดเยอะ!!



KZ ID : ชัชชญา ส่งเจริญ  (ป๊อปปี้)
AGE : 15 (16 ธ.ค. 1994)
Nationality : Thai
School : EIS (Ekamai International School
Hobbies : สะสม นาฬิกา , เครื่องประดับ , รองเท้า
Specialist : เห็นเป็น hiphop girl อย่างเงี้ย ใครจะไปรู้ว่าป๊อป รักการเต้นเป็นที่สุด ทั้งเต้นบัลเล่ท์ เต้นแจ๊ส รำไทย และเล่นเปียโน
Wave Connect : KAT PAT พี่น้องสุดแซบที่แกล้งอำคนไปเรื่อย
What’s your KamiKaze?: สเตปแดนซ์เท้าไฟ แม้จะอยู่บนส้นสูงหกนิ้ว!



T.J.
:เห็นนิ่งอย่างงี้  แต่ ฝีมือการแร็พและเขียนเพลง...แสบเอาเรื่อง! ฝากผลงานเจ๋งๆไว้กับศิลปิน KamiKaze ทั้ง K-OTIC , WAii และ Payu



KZ ID : จิรายุทธ ผโลประการ  (T.J.)
Nationality : Thai
Age : 17 (20 ส.ค. 1992)
School : GED
Hobbies : เขียนเพลง
Specialist : แร็พ แต่งเพลง รวมอยู่ในตัว 3 in 1!!
Wave Connect : จะwave ไปหาทุกคนเลย เตรียมตัวไว้ให้ดี!
What’s your KamiKaze?: 3.2.1 is coming watch out!!
ที่มา :http://ilovekamikaze.com/artists/321/profile